ทำไมคนไทยถึงไม่ชอบดูหนังไทยกันอีกแล้ว

ถ้าถามว่าดูหนังไทยครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ก็อาจจะตอบแบบไม่ต้องคิด เกิน 10 ปีได้แล้ว เพราะอะไรทำไมไม่ดูหนังอีกเลยหรือ ก็ดูนะแต่เลือกที่จะดูหนังต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหนังเกาหลี หนังฝรั่ง ยิ่งตอนนี้หนังที่ให้ทั้งความสนุกและความบันเทิงอย่าง หนังซุปเปอร์ฮีโร่ก็ยิ่งไม่พลาดเลยสักเรื่อง แล้วหนังไทยหายไปไหนทำไมไม่ดู ก็เลยพยายามลองดูแล้ว แต่มันไม่ตอบโจทย์ที่ต้องการก็เลยเลิกดูไปแล้วแบบนี้คนทำหนังไทยไม่เสียใจแย่หรือ
ต้องย้อนกลับกันไปสักหน่อย ตอนนี้หนังแนวไหนที่มีคนดูเยอะที่สุด แล้วหนังแนวไหนที่ทำเงินเยอะที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นกับหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ เพราะหนังแนวนี้จัดว่าตอบโจทย์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทั้งหมดแม้จะมีฉากต่อสู้กันเกือบตลอดทั้งเรื่องแต่ก็เป็นหนังที่สอนทุกแนวคิดทุกเรื่องราวได้ดีทั้งหมด ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับหนังไทยแล้วก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง มันบอกได้ถึงแนวคิดแบบชัดเจนได้เลยว่าหนังไทยนั้นไม่ตอบโจทย์กับคนดูเลยแม่แต่น้อยการเดินเรื่องก็ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น มีแต่การเดินเรื่องราวแบบเดิมๆ ไม่มีจุดเปลี่ยนไม่มีจุดตัด ซึ่งต่างประเทศเขาทำหนังแนวนี้มากว่า 20 ปีแล้ว แล้วทำไมพี่ไทยไปอยู่ไหนมาทำไมไม่ดูหนังต่างประเทศกันเลยหรือ หรือว่าหนังต่างประเทศยังไม่ตอบโจทย์กับคนสร้างหนังไทยเท่าไหร่นัก ทำให้วงการหนังบ้านเราหยุดและกำลังโดนทุกประเทศแซงหน้าไปแม้กระทั้งเพื่อนบ้านเราที่มาที่หลังแต่เหมือนว่าเครื่องจะแรงแล้วก็เข้าเกียร์เดินหน้ามองเห็นโอกาสในการสร้างหนังให้มีแฟนคลับอย่างไม่ยากเย็นนัก
หรือว่าวงการหนังไทยมีเรื่องอื่นเข้ามาปะปนทำให้วงการต้องหยุดนิ่ง….???
ตรงนี้ก็ตอบได้ยากเพราะเราไม่ได้คลุกคลีเกี่ยวกับวงการหนังมากนักรู้เพียงแค่ผิวๆ แต่เรื่องของตับไตใส้พุงตรงนี้ไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย เพราะเรื่องด้านในใครก็คงไม่อยากให้รู้มากเท่าไหร่นัก เรื่องแบบนี้ใครออกมายอมรับก่อนออกมาพูดก่อน ก็ตายก่อน แต่ก็อย่าลืมว่า ตายก่อนก็เกิดก่อนมันเป็นเรื่องธรรมดาผิดตรงไหน เกิดและตายเป็นของคู่กัน ไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย
ถึงเวลาแห่งการจุดไฟในใจใหม่ วงการหนังไทยต้องมีกาปรับเปลี่ยนทุกอย่างใหม่ ให้คนรุ่นใหม่ที่เข้าใจคนวัยเดียวกันและมองเห็นอนาคตเหมือนกันทำงานด้วยกันน่าจะดีกว่า แต่ก็ใช่ว่าคนรุ่นเก่าจะไม่มีประโยชน์หรือโดนตัดทิ้งให้ไปอยู่บ้านพักคนชราแต่อย่างใด วงการหนังก็ยังต้องการคำชี้นำจากคนรุ่นเก่า ความเก๋าเกมส์ และความเห็นที่เรียกว่าประสบการณ์ก็ยังจำเป็นอยู่สำหรับทุกวงการเรื่องนี้ไม่ได้ยากเกินกว่าจะลงมือทำ แต่มันอยู่แค่เริ่มต้นเมื่อไหร่เท่านั้น ลองไปลื้อประวัติเก่าที่หนังไทยเคยดังมาลองปัดฝุ่นแล้วหาจุดเปลี่ยนที่ทำให้ดังได้ แล้วจะพบว่า ตอนนี้เราก็ต้องการจุดนั้นมาปรับเปลี่ยนเราเหมือนกัน อย่างที่มีคนเคยกล่าวไว้ “ทุกความสำเร็จมีเส้นทางเหมือนกันเสมอ” เมื่อมันเคยสำเร็จก็ลองไปดูเส้นทางเก่าที่เข้ามาแล้ว “ปรับใช้” สักเล็กน้อย มันก็คือเส้นทางเดิมที่เคยเดินผ่าน นำมาใช้รับรองสำเร็จอีกครั้ง